เชื้อก่อโรคในขนมจีบ
เชื้อก่อโรคในขนมจีบ
จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ประชาชนทั่วโลกกำลังประสบปัญหา สิ่งดีที่สุดที่ตัวเราเองทำได้คือ การดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดีตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งการเว้นระยะห่าง การสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการไปสถานที่แออัด ออกนอกบ้านเท่าที่จำเป็น ทานอาหารปรุงสุกใหม่ๆ หรืออาหารร้อน หรือปรุงอาหารทานเอง แต่ถ้าเบื่อการทำอาหารอยู่บ้าน ทางเลือกที่สะดวกและปลอดภัยจากโควิด-19 คือ สั่งอาหารมาทานที่บ้าน หรือซื้อจากรถที่มาเร่ขายหน้าบ้าน
ขนมจีบ ซาลาเปา อาหารว่างยอดนิยมที่หาซื้อง่าย ทานง่าย แม้นั่งอยู่ที่บ้านก็มีรถมาเร่ขายกันถึงหน้าบ้าน แต่กว่ารถจะเร่มาขายหน้าบ้านเรา รถเหล่านี้ไปมากี่ที่ และเก็บขนมจีบ ซาลาเปาไว้รอคนซื้อนานแค่ไหน หากอุ่นให้ร้อนขณะรอขายตลอดเวลาก็ไม่เป็นไร แต่หากเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง ขอเตือนให้ระวังเชื้อก่อโรคที่อาจปนเปื้อนอยู่ในอาหารได้ เช่น เชื้อก่อโรคซาลโมเนลลา ในขนมจีบ
เชื้อชนิดนี้มักพบปนเปื้อนในอาหารที่ผู้ผลิต หรือผู้ปรุง หรือผู้ขายไม่รักษาสุขลักษณะส่วนบุคคลให้ดีเพียงพอ หรือไม่ล้างทำความสะอาดวัตถุดิบ ภาชนะ อุปกรณ์ต่างๆที่ใช้สัมผัสขนมจีบให้สะอาด ที่สำคัญหากคนขายหยิบจับเงิน หรือผ้าขี้ริ้วที่สกปรก หรือเข้าห้องน้ำแล้วไม่ล้างมือ แล้วมาหยิบจับขนมจีบขายให้เราก็อาจทำให้มีเชื้อซาลโมเนลลา ปนเปื้อนอยู่ได้ เชื้อชนิดนี้ เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ ทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ปวดหัว ปวดท้อง มีไข้ หนาวสั่น อ่อนเพลีย ซึ่งจะเกิดหลังทานอาหารที่ปนเปื้อนไปแล้วประมาณ 6-48 ชั่วโมง
วันนี้ สถาบันอาหารได้สุ่มเก็บตัวอย่างขนมจีบ 5 ตัวอย่าง จาก 5 ร้านริมบาทวิถี ร้านในตลาดนัดและในตลาดสด ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อนำมาวิเคราะห์เชื้อซาลโมเนลลา ปนเปื้อน ผลปรากฏว่า ทุกตัวอย่างไม่พบเชื้อซาลโมเนลลา ปนเปื้อนเลย แต่ไม่ควรชะล่าใจ ก่อนทานขนมจีบทุกครั้งควรนำมาอุ่นให้ร้อนอีกครั้ง หากซื้อมาแล้วไม่ทานทันที ควรเก็บไว้ในตู้เย็นหรือเก็บที่อุณหภูมิต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียสไม่ควรวางไว้ที่อุณหภูมิห้องนานเกิน 2 ชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยจากทั้งเชื้อก่อโรคในอาหาร และโรคโควิด-19.
ไทยรัฐ+สถาบันอาหารโครงการอาหารปลอดภัย
เอกสารเพิ่มเติม :
