“ข้าว” นับเป็นพืชที่สำคัญของประเทศแถบเอเชีย เพราะเป็นอาหารหลักของชาวเอเชีย ประเทศที่ทานข้าวเป็นอาหารหลักจะมีการปลูกข้าวสายพันธุ์ของตนเอง ที่มีรูปร่างลักษณะ ความนุ่มความแข็ง มีกลิ่นหอมและรสชาติตามความชอบของคนในประเทศ เช่น เมืองไทยจะนิยมปลูกและทานข้าวหอมมะลิ ข้าวเหลืองประทิว ข้าวเสาไห้ กันแพร่หลาย ปัจจุบันไทยมีการนำเข้าข้าวพันธุ์ต่างๆ จากต่างประเทศมาใช้ปรุง ประกอบอาหารหลากหลายเมนู เช่น นำเข้าข้าวญี่ปุ่นมาทำข้าวปั้น ซูชิ เบนโตะต่างๆ นำเข้าข้าวอิตาลี มาทำข้าวผัดอิตาเลียน ข้าวรีซอสโต้ เป็นต้น
แม้ว่าข้าวจะมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่หากแหล่งที่ปลูกข้าว ดินและน้ำมีโลหะหนักปนเปื้อนก็อาจทำให้ต้นข้าวดูดซึมโลหะหนักดังกล่าว และปนเปื้อนอยู่ในเมล็ดข้าวที่เรานำมาทานได้ โลหะหนักที่ว่าคือสารหนู ที่มักพบปนเปื้อนในข้าว อาหารทะเล สารหนูเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และด้วยกิจกรรมของคน เช่น การทําเหมืองแร่ ถลุงโลหะ การผลิตยากําจัดศัตรูพืช ยาฆ่าแมลงที่ใช้สารหนูเป็นวัตถุดิบ สารหนูเป็นสารอันตราย หากได้รับเข้าสู่ร่างกายปริมาณมากๆ จะทำให้เกิดการระคายเคืองอวัยวะที่สัมผัสสารหนู ทําให้คลื่นไส้ อาเจียน เป็นตะคริว กล้ามเนื้อเกร็ง และมีอาการแทรกซ้อนเกี่ยวกับการทํางานของหัวใจ หากได้รับเข้าสู่ร่างกายปริมาณน้อยแต่เป็นระยะเวลานาน จะทําให้เกิดอาการชาตามปลายมือปลายเท้า แสบร้อน มีอาการอ่อนเพลียของแขน ขา อาจทำให้เป็นมะเร็งผิวหนังและปอดได้
วันนี้ สถาบันอาหาร สุ่มตัวอย่างข้าวขาวขัดสีนำเข้า 5 ตัวอย่าง จาก 5 ยี่ห้อ ที่วางขายในซุปเปอร์มาร์เกตในเขตกรุงเทพฯ เพื่อนำมาวิเคราะห์สารหนูทั้งหมดปนเปื้อน ผลวิเคราะห์พบว่าข้าวนำเข้าทั้ง 5 ตัวอย่าง พบสารหนูปนเปื้อน แต่ปริมาณที่พบปนเปื้อนน้อยมากและยังไม่เกินค่ามาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง มาตรฐานอาหารที่มีสารปนเปื้อน ที่กำหนดให้พบสารหนูอนินทรีย์ในข้าวขัดสีและในข้าวกล้องได้ไม่เกิน 0.2 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และ 0.35 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม วันนี้ข้าวนำเข้ายังปลอดภัยอยู่.
ไทยรัฐ+สถาบันอาหารโครงการอาหารปลอดภัย