DNA หมูในลูกชิ้นเนื้อวัว

        ลูกชิ้นเนื้อวัวอาหารแปรรูปจากเนื้อวัวที่คุ้นเคยของคนไทย นิยมใช้เป็นส่วนประกอบในก๋วยเตี๋ยวเนื้อ หรือเสียบไม้ปิ้ง ย่างทานคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ด วิธีการผลิตลูกชิ้นเนื้อวัวไม่ยุ่งยาก เริ่มจากเลือกเนื้อวัวที่สดใหม่ ไม่ติดมัน ไม่มีกระดูก นำมาบดให้ละเอียดแล้วผสมกับวัตถุดิบอื่นๆ เช่น เครื่องปรุงรส พริกไทย เกลือ แป้งมัน ผงฟู เติมน้ำเย็นทีละน้อยผสมให้เข้ากันจนได้เนื้อสัมผัสที่มีลักษณะเหนียวหนึบ พักส่วนผสมในตู้เย็น 1 ชั่วโมง แล้วนำมาปั้นเป็นก้อนกลมลงในน้ำอุ่นและต้มจนสุก ก็จะได้ลูกชิ้นเนื้อวัวอย่างที่เราเห็นวางขายหลากหลายยี่ห้อตามตลาดนัด ตลาดสด ร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เกตและห้างสรรพสินค้าทั่วไป

       ลูกชิ้นเนื้อวัวที่เราซื้อมาประกอบหรือปรุงอาหารทานที่บ้านนั้น เราคาดหวังว่าจะต้องเป็นลูกชิ้นที่ทำมาจากเนื้อวัวล้วนๆ ไม่ปะปนหรือมีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ชนิดอื่น แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าในลูกชิ้นเนื้อวัวนั้นมีเนื้อสัตว์อื่นผสมอยู่ด้วยหรือไม่ ก็ให้ดูที่ฉลาก ถ้าชื่ออาหารระบุว่าผสมเนื้อสัตว์ชนิดอื่น เช่น ลูกชิ้นเนื้อ (เนื้อผสมไก่) ก็แสดงว่ามีเนื้อไก่ผสม แต่หากชื่อในฉลากไม่ระบุว่าผสมเนื้อสัตว์อื่นๆ ก็สามารถใช้วิธีการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์มาช่วยได้ คือ การตรวจหา DNA เช่น หากต้องการทราบว่ามีเนื้อหมูผสมอยู่หรือไม่ ก็นำลูกชิ้นเนื้อวัวมาตรวจการปนเปื้อน DNA ของหมู ด้วยเครื่อง Real Time PCR หากผลการตรวจพบว่ามี DNA ของหมูปนเปื้อนฟันธงได้ว่ามีเนื้อหมูผสมอยู่ในลูกชิ้นเนื้อวัวแน่นอน

        สถาบันอาหารได้เก็บตัวอย่างลูกชิ้นเนื้อวัว จำนวน 5 ตัวอย่าง จาก 5 ร้านค้าที่วางขายในตลาดและซุปเปอร์มาร์เกตในเขตกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด เพื่อนำมาวิเคราะห์การปนเปื้อน DNA ของเนื้อหมู ผลปรากฏว่าลูกชิ้นเนื้อวัวทั้ง 5 ตัวอย่างไม่พบการปนเปื้อน DNA ของเนื้อหมูเลย เห็นผลวิเคราะห์อย่างนี้แล้ว วันนี้มั่นใจได้ว่าลูกชิ้นเนื้อวัวไม่มีเนื้อหมูผสมแน่นอน ท่านที่ชื่นชอบการทานลูกชิ้นเนื้อวัวขอแนะวิธีการเลือกซื้อลูกชิ้นเนื้อวัวตามท้องตลาดเพิ่มเติมว่า ควรเลือกซื้อลูกชิ้นที่ทำสดใหม่ บรรจุอยู่ในภาชนะปิดสนิท เก็บรักษาไว้โดยการแช่เย็น บนฉลากมีเครื่องหมาย อย. และระบุว่า ไม่ใช้สีสังเคราะห์ ไม่ใส่วัตถุกันเสีย เพื่อความอร่อยและปลอดภัยของร่างกาย.

ไทยรัฐ+สถาบันอาหารโครงการอาหารปลอดภัย