มะม่วงดอง อาหารว่างที่เป็นที่โปรดปรานของบรรดาสาวๆที่ชื่นชอบความจี๊ดจ๊าด การดองถือเป็นการถนอมอาหารที่ช่วยยืดอายุการเก็บรักษามะม่วงสดให้สามารถเก็บไว้ทานหรือขายได้นานขึ้น วิธีการดองมะม่วงไม่ยุ่งยาก เริ่มจากนำมะม่วงดิบที่มีรสเปรี้ยวมาแช่ในน้ำเกลือและน้ำปูนใสประมาณ 3 ชั่วโมง แล้วนำไปล้างน้ำสะอาด ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ นำมาใส่ในภาชนะที่ปิดได้มิดชิด เทน้ำดองที่มีส่วนผสมของเกลือ น้ำเปล่า น้ำตาลให้พอท่วมมะม่วง ปิดฝา และดองไว้ประมาณ 15 วัน ก็จะได้มะม่วงดองรสชาติอร่อย เค็มตัดเปรี้ยวและกรอบกำลังดี ถ้าเราดองเองก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่หากเราซื้อมาทาน เช่น ซื้อจากร้านค้าในตลาดนัด รถเข็น ร้านขายของชำและซุปเปอร์มาร์เกตต่างๆ สิ่งหนึ่งที่ขอเตือนให้ต้องระวังคือ การปนเปื้อนของกรดซาลิซิลิค หรือสารกันรา ซึ่งผู้ผลิต หรือพ่อค้า แม่ค้าอาจเติมลงไปในระหว่างผลิตมะม่วงดองเพื่อป้องกันการขึ้นรา เพราะสารชนิดนี้มีคุณสมบัติยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ เมื่อเติมลงไปในผักผลไม้ดอง จะช่วยให้ผักหรือผลไม้ที่ดองนั้นคงสภาพความสดใหม่ น้ำดองมีลักษณะใส ไม่ขุ่น ดูน่ารับประทานและยังสามารถเก็บรักษาไว้ขายได้นานๆ ทว่ากรดซาลิซิลิคนั้นอันตราย เมื่อเราได้รับเข้าสู่ร่างกายจะทำให้มีอาการระคายเคืองระบบทางเดินอาหาร บริเวณปาก ลำคอ หายใจลึกถี่ผิดปกติ อาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ อาเจียน หูอื้อ มีไข้ ความดันต่ำ กรณีที่รุนแรงอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสมดุลกรด-ด่างในร่างกาย อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น มีภาวะขาดน้ำ และถึงขั้นเสียชีวิตได้ ตามกฎหมายของไทย กำหนดให้กรดซาลิซิลิคเป็นอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้าหรือจำหน่าย รวมถึงห้ามใช้กรดซาลิซิลิคในอาหารทุกชนิด

        สถาบันอาหารได้เก็บตัวอย่างมะม่วงดอง 5 ตัวอย่างจาก 5 ร้านค้า ในตลาดสดและรถเข็นขายผลไม้ ในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อนำมาวิเคราะห์กรดซาลิซิลิคปนเปื้อน ผลวิเคราะห์พบว่ามะม่วงดองทั้ง 5 ตัวอย่าง ไม่พบกรดซาลิซิลิคปนเปื้อนเลย วันนี้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่ามะม่วงดองปลอดภัยจากสารกันรา แต่ขอแนะว่าไม่ควรทานอาหารหมักดองบ่อยจนเกินไป ควรทานอาหารให้หลากหลาย และครบ 5 หมู่ เพื่อความปลอดภัยในระยะยาว.

ไทยรัฐ+สถาบันอาหารโครงการอาหารปลอดภัย